ยางอินเดีย MRF เป็นไงหว่า
แล้วก็ถึงฤดูกาลที่เรา ๆ ท่าน ๆ ชาวมอร์ไซด์ทั้งหลายแหล่ไม่ค่อยจะชอบกัน กับฤดูฝน....จริง ๆ แล้วมันเหมาะกับการนอนเฉย ๆ อยู่บ้านมากกว่า แต่ก็ทำไงได้ ไม่ใช่ลูกเศรษฐีก็ต้องทำมาหารับประทานกันไปตามหน้าที่การงานของแต่ละคน สำหรับบางคนที่มีทางเลือกเยอะ ช่วงนี้ก็ใช้สีล้อกันไป..มีหลังคา..ไม่เปียก ส่วนตัวกระผมเองก็มีทางเลือกเหมือนกัน แต่เป็น รถเบ็นส์6ล้อ(รถเมล์นั่นแหละ) กันเจ้าสองล้อคู่ใจ ยังไงก็ต้องเลือกเจ้า 2 ล้อ ถึงฝนจะดก ฟ้าจะร้องก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว
ว่าไปแล้ววันก่อนฝนแรกเริ่มลง หลังจากฝนหยุดก็ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป ขี่เจ้าสองล้อคู่กายไปโน่นมานี่ ตามประสาคนทำงานทั่วไป จังหวะนั้นขี่จำได้ว่าขี่ด้วยความเร็วซักประมาณ 4-50 ตามไมล์ติดรถ แล้วต้องการชลอรถ ด้วยถนนเป็นช่วงหลังฝนตกใหม่ ๆ กะพืนถนนช่วงนั้นดูด้วยตาแล้วมันเงางาม..เลยต้องต้องใช้ความระวังเป็นอย่างมากในการลดความเร็ว..เริ่มกดเบรกหน้าหลังเบา ๆ ปรากฎว่า..ล้อหลังล็อค..ลากยาวประมาณ 10 เมตรได้ แต่เป็นทางตรง เลยกดเบรคหน้า-หลังให้ให้เบาลงอีก แล้วลดเกียร์ช่วย ..หวิดไปแล้วมั้ยหละ..ลื่นจริง ๆ เอาเป็นว่าเพือน ๆ ขี่รถหน้าฝนก็ระวังกันให้มาก ๆ ก็แล้วกัน
กลับมาถึงบ้านเกิดอาการวิตกจริต ก้มไปดูที่ยาง ซึ่่งมีดอกเยอะอยู่พอสมควร ถ้าถนนแห้งก็พอขี่ได้ เอาเล็บจิกดู..มีน่าหละ..ว่าทำไมมันลืนมาก ๆ บอกเลยว่า..เนื้อยยางแข็กเป็ก รวมทั้งเริมแตกลายงาแล้วด้วย..เห้อ..เสียตังอีกแระงานเนียะ
ยางหลังก็เช่นกัน แตกลายงาเหมือนกัน
วันผลิตของยางชุดเดิม เป็น 4209 คือ ผลิตสัปดาห์ที 42 ของปี 2009 ในหนึงปีมีประมาณ 52 สัปดาห์ และปัจจุบัน ต้นเดือนมิถุนายน2012 หักลบแล้วได้อายุยาง ก็ประมาณ 2 ปีครึ่งได้..ว่าแล้วทำไมยางมันแข็ง..เล็บจิกไม่ลงเลย จริง ๆ แล้ว(ฟังเค้ามา) ยางมอร์ไซด์อย่างเรา ๆ โดยทั่วไป 2 ปีควรเปลี่ยน หรือเปลี่ยนก่อนก็ได้ถ้าดอกสึกหรอหมดแล้ว..อยู่ที่การใช้งานของแต่ละคน..และรอบที่เหมาะที่สุดในการเปลี่ยนยางคือช่วงต้นปี..คือกุมภาพันธ์-เมษายน เพราะอันดับแรกคือเราจะได้ใช้ยางใหม่ที่สภาพสมบูรณ์ตอนช่วงหน้าฝนไง อีกอย่าง สำหรับยางที่ต้องนำเข้า ล็อตหลัก ๆ ก็เข้ามาช่วงตันปี เพราะสิ้นปีจะมีการเช็คสต็อค รวมถึงผู้ค้ามันจะรอปีของยางให้เป็นปีผลิตปัจจุบัน เพื่อประโยชน์ในการเก็บไว้ขายได้นานขึ้น ยกตัวอย่าง เลขผลิต 5211 กัน 0212 จริง ๆ แล้วระยะเวลาผลิตห่างกันแค่ 3 สัปดาห์..แต่ตัวเลขปีมันมีผลต่อความรู้สึกมากกว่า...บางคนอาจไม่รู้สึก..แต่ผมจะรู้สึกดีกว่าถ้าตอนซื้อได้ยางปีปัจจุบัน..^&^!
สำหรับคนที่นึกภาพไม่ออก dunlop gt 501
dunlop alphar-12
ได้ยางมาแล้วก็ถอดล้อเลย
ขนไปให้ร้านใส่ให้
ล้อหน้า
ล้อหลัง
สองล้อ..อวบอิ่ม..เต็มวง..พอดีซู้ม ดูสปอร์ตขึ้นดี..สมกับเป็น motard
สรุปง่าย ๆกับยางอินเดีย MRF ที่ติดรถเจ้า Duke200 ถือว่าโอเคเลยสำหรับยางถอดรถขายกันที่ไม่เกิน 3,000 กับขนาด 110/70 และ 150/60 คุ้มราคาค่าตัวจริง ๆ เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนงบน้อยนะครับ..แต่ถ้าเป็นของใหม่ราคา เกิน 5,000 ผมคนไป อัลฟ่า 12 ดีกว่าเนื่องจากเพิ่มอีกนิดเดียวเอง ของดีราคาเหมาะสมก็มีนะครับ..อยู่ที่เราเลือก..แต่ถ้าใครเงินถุงเงินถึงก็จัดตะเกียบหักไปเลยก็ได้..ไม่ว่ากัน..แต่สำหรับผมแล้ว..แค่นี้ก็รองรับการใช้งานพร้อมที่จะผ่านหน้าฝนไปได้อีกซักสองปี....
update
ยางเส้นนี้เปลี่ยนช่วงเดือนกรกฏา 2012 ณ.วันนี้เดือน กรกฏา 2013 ตอนนี้ใช้ยางชุดนี้มาปีนึงพอดี ประมาณ 20,000 กิโล ดอกยางยังไม่หมด แต่เนื้อเริ่มแข็งที่ประมาณ 7-8 เดือน และตอนครบปี ก็เริ่มแตกลายงาแล้ว สรุปว่า..ยางรุ่นนี้การใช้งานดีที่สุดน่าจะอยู่ราว ๆ ปีนึง ถ้าเกินนี้ก็เนื้อแข็งไม่เกาะเท่าที่ควร ตอนนนี้ก็รอเวลาอีกนิดกะลังจะเปลี่ยนยางไปลองรุ่นอื่น ๆ บ้าง แล้วจะมาเล่าให้ฟังในคราวต่อไปนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น