ความเร็ว บนเรือนไมล์ กับ ความเร็วgps

ย้อนรำลึกความหลังครั้งเก่า หรือคนรุ่นเก่า ๆ สมัย 2 จังหวะรุ่งเรื่อง  ถอยมอร์เตอร์ไซด์มาใหม่ ๆ อย่างแรก ใล่เสตอร์เพื่อให้ได้ความเร็วปลายเพิ่มขึ้นกันก่อนเลย   (สมัยนี้น่าจะชินกับการไล่เม็ดมากกว่า)  จำได้ว่า สมัยได้ nova s มาใหม่ ๆ  เดิม ๆ ได้แค่ 110 แค่ ลดเสตอร์หลัง จากเดิม 38 ไป 34 ก็ได้ความเร็วเพิ่มเลยเป็น 120 แบบไม่หมอบ แต่ต้นจะอืดขึ้นนิดหน่อย  ถ้าอย่างได้ต้นอีกนิด ปลายอีกหน่อย ก็จบที่ 36   ได้ความเร็วเพิ่ม ต้นไม่อืดมาก  จะเป็นการเข้าใจกันในกลุ่มเล่นรถ ว่า จะหาความเร็วปลาย ต้องลดเสตอร์  แต่ปัจจุบัน ลดเสตอร์ แล้วทำไมวิ่งได้น้อยลง  เพิ่มเสตอร์ไมล์ขึ้นเยอะกว่าเดิม..... ถูกต้องแล้วครับ สำหรับคนที่ติดกับตัวเลขบนเรือนไมล์ แต่เอาจริงๆ  ถ้าเสตอร์ถูกต้องก็ได้ความเร็วปลายเพิ่มขึ้นนั้นแหละ แต่ไม่ใช่ลดซะเยอะจนไม่มีแรง รถกลับยิ่งแย่กว่าเดิมอีก  สาเหตุหลัก  ๆ คือรถรุ่นใหม่ ๆ หันมาจับความเร็วที่ แกนเสตอร์หน้ากันมากขึ้นในรถเกียร์ (ส่วนรถออโต้คงต้องจับความเร็วกันที่ล้อหน้าอย่างเดียว ) ทำให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่า เพิ่มเสตอร์ รถจะวิ่งได้ปลายมากขึ้น   วิธีวัดความเร็วแบบตรง ๆ มีอยู่หลายวิธี เดี๋ยวนี้ง่ายมาก มือถือก็ทำได้แล้ว แถมคลาดเคลื่อนน้อยมาก (ไม่เกิน 3%)  แต่จะดีเลย์ นิดหน่อย  หรือจะใช้วิธีคำนวนความเร็วจริงจากรอบเครื่องยนต์ก็ได้ คลาดเคลื่อน น้อยลงไปอีก มาดูกันดีกว่าว่า ทำกันยังไง
มาดูวิธียาก กันก่อน โดย คำนวนความเร็วจาก รอบเครื่องยนต์ หลักการคือ รอบเครื่องหมุนได้เท่าไหร่ ได้รอบล้อที่เกียร์สุดท้ายเท่าไหร่ แล้วนำเส้นผ่าศูนย์กลางของรอบล้อ มาคิดเป็นความเร็วจริง  ง่ายมั๊ยครับ  จริง ๆ หลักการมันก็ไม่ยาก ปัญหาคือ เราจะรู้ได้อย่างไร ว่า รอบเครื่องเท่านี้ จะได้รอบล้อเท่าไหร่








จากรูป ให้เห็นหลักการ แบบเข้าใจง่าย ๆ ว่า รอบเครื่อง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอบล้อ ที่ทำให้รถวิ่งได้ความเร็วเท่าไหร่ จะต้องผ่าน อัตราทดขั้นต้น อัตราทดเกียร์ อัตราทดขั้นสุดท้ายหรือเสตอร์หน้า-หลัง  ทีนี้มาดูการคำนวนกันเลยกว่า ย้อนอดีตคณิตศาสตร์ขั้นประถมกันหน่อย
ขั้นแรกมาคำนวนระยะทางรอบล้อกันก่อน ใช้สูตร




 

เอาแบบภาษามนุษย์แบบเอาไปใช้ได้เลยคือ
##เส้นรอบวงล้อ = 2 x 3.14 x (เส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ/2)
เช่น
ถ้ารถใส่ล้อ  17 นิ้ว ยางเบอร์ 130/70 หาเส้นรอบวงล้อรวมยาง
ก่อนอื่นหาก่อนกว่า ยางสูงจากขอบกระทะเท่าไหร่ จาก
130=ความกว้างของยาง 130mm, และ 70 คือความสูงของยาง 70เปอร์เซนต์ของหน้ากว้าง  ดังนั้นเราจะได้ ยางสูง
130*(70/100) = 91 mm ซึ่งเท่ากับ 9.1 เซนติเมตร
แสดงว่า ยางเส้นนี้ สูงจากขอบล้อด้านละ 9.1 เซนติเมตร (อันนี้ด้านเดียวนะจ๊ะ)
ใส่กับล้อ 17 นิ้ว คิดเป็นเซนติเมตร ก็ เอา 2.54 คุณได้เลย จะได้
17 x 2.54 = 43.18  
เส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ หาร 2 = (43.18+9.1+9.1)/2= 30.69 เซนติเมตร
 แต่เอาจริง ๆ วิธีง่าย ๆ  ก็เอาตลับเมตรวัดเส้นผ่าศูนย์กลางล้อได้เลย หรือง่ายกว่านั้นอีกคือ กลิ้งล้อ
1 รอบ แล้ววัดระยะทางแล้วเอาไปใช้ได้เลย (เขียนให้ยากทำไมเนี่ยะ 5555)
ต่อ ๆ ทีนี้เราได้ ค่าที่ต้องการ ก็เอามาคำนวนได้เลย
##เส้นรอบวงล้อ = 2 x 3.14 x (เส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ/2)
เส้นรอบวงล้อ = 2 x 3.14 x 30.69 = 192 .73 เซนติเมตร
#### เส้นรอบวงล้อ 192.73 เซนติเมตร หรือ 1.92 เมตร หรือ 1.92/1000 กิโลเมตร #### เก็บค่านี้ไว้ก่อน

มาดูการหาอัตราทดรวมกัน
เอาของ R15 มาใช้ก็แล้วกัน
อัตราทดขั้นต้น      
3.042
อัตราทดเกียร์หก   0.84
อัตราทดขั้นสุดท้าย(เสตอร์หน้า/หลัง) 3.13
หมายเหตุ เอาเฟืองตาม หารด้วย เฟืองนำ เช่น เสตอร์หน้า
15 หลัง 47 ก็จะได้ 47/15=3.13
เพื่อความเข้าใจความความเป็นจริง รถ r15 วิ่งลงถนนจริง จะทำรอบได้แถว ๆ 9000 รอบ จึงขอเอาค่านี้มาคิดก็แล้วกัน จะได้ความเร็วจริง ๆ ที่ 9000 รอบต่อนาที(ทำเป็นรอบต่อชั่วโมงโดย 9000x60) ได้เป็น
รอบต่อชั่วโมง / อัตราทดขั้นต้น / อัตราทดเกียร์สุดท้าย / อัตราทดขั้นสุดท้ายเสตอร์หน้าหลัง x เส้นรอบวงล้อรวมยางกิโลเมตร = ความเร็วจริง
[(9000x60)  / 3.042 / 0.84 / 3.13 ]x(1.92/1000) = 129.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แสดงว่า ถ้า r15 ล้อเดิม ยางเดิม วิ่งลงถนนได้รอบเครื่อง 9000 รอบ จะได้ความเร็วจริง ที่ 129.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่บนหน้าปัดขึ้นเท่าไหร่ ก็ไปดูกันเอาเองนะครับ
อ้าว..แล้วถ้า ใส่เสตอร์หน้า 14 หลัง 47  แต่รอบมาไว้ขึ้น และ ที่เกียร์หก ทำรอบได้ลึกกว่าเดิมเป็น 9500 รอบ รถวิ่งได้เท่าไหร่  มาคำนวนกันดูครับ ทุกอย่างใช้ตัวเลขเดิมได้เลย เป็นแค่เสตอร์ จาก 3.13 เป็น 3.35 และรอบจาก 9000 เป็น 9500 จะได้
[(9500x60)  / 3.042 / 0.84 / 3.35 ]x(1.92/1000) = 127.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ได้ควาวเร็วจริง 127.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง(อาจคลาดเคลื่อนจากการปัดเศษนิดหน่อย) แต่เชื่อได้เลยว่า ดูหน้าไมล์ ไปไกลแน่นอน  ถึงจะวิ่งได้พอ ๆ กับของเดิม แต่สิ่งที่ได้มาคือ ต้นจัด มาไว แล้วก็หมดไวเช่นกัน จากอัตราทดที่จัดขั้น  แต่ถ้าออกทริป เน้นไหล ๆ สู้ เสตอร์เดิมไม่ได้แน่นอน เพราะ ใช้รอบเครื่องไป 9500 รอบ ถ้าวิ่งลงเนิน หรือ ใช้ลมดูด รอบรถสุดที่ 10,500 เหมือนกัน คันที่ใช้ เสตอร์ 15,47 จะไหลได้ลึกกว่า เพราะรอบเหลือมากกว่า

มีอีกวิธีที่จะช่วยให้ง่าย ขึ้นในการคำนวน สำหรับวัยรุ่นยุกค์ใหม่อย่างเรา ๆ  ใช้app ช่วยคำนวนได้เลย มีมากมายหลายapp แต่จะขอแนะนำวิธีใช้ ของแอบที่ผมใช้บ่อย ๆ มาให้ชมเป็นแนวทางก็แล้วกันครับ 



ชื่อ app  Calcola rapport ในplay store โหลดกันมาใช้ได้เลย ฟรี ๆ   จะนั้นก็เข้าapp ยี่ห้อ รุ่น และข้อมูลเบื้องต้นให้เราอยู่แล้วมากมายหลายรุ่น แต่บางรุ่นก็ยังไม่มี เราสามารถ custom ใส่ข้อมูลเข้าไปได้เลย แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกว่ามีแอบ 5555 อยากให้รู้ที่มาก่อนว่าเค้าคำนวนจากอะไร มาดูกัน




พอเราเข้าapp  ก็มีมาให้ 2 แท๊บ คือ database moto กับ custom
ตรง database moto ล่างลงมา จะมียีห้อต่าง ๆ ให้เราเลือก ข้าง ๆ กันก็จะเลือกรุ่น  พอกดครบ ข้อมูลก็มาให้เราใช้งานกัน  ส่วนบางรุ่นที่ไม่มีข้อมูล เราก็ใช้แทป custom เพื่อ สร้างเองได้เลย
หวังว่าคงเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์กันนะครับ 



ขอบคุณผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการครับ เข้าไปชมสินค้ากันได้เลยครับ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำนวณซีซี

แคมแต่งต้องทำใจ

a/f ratio เท่าไหร่ถึงจะดี