แจ้งเปลี่ยนแคร๊งเครื่องยนต์ (crank)
เฮ้อ..ยาว ๆ
กับความเหนื่อย...แต่ก็ไม่รู้จะทำไง..ก็ต้องก้มหน้าก้มตารับเคราะห์..เรื่องของเรื่องมันไม่มีไรมากหรอก..วันก่อนได้มีโอกาสขี่มอร์ไซด์ไปเที่ยวต่างจังหวัด
ขี่ไปยังไม่ทันจะเที่ยวเลย ปรากฏว่า “รถพัง” อาการคือ..ขี่ ๆ ไป
มีเสียงประหลาดแล้วเครื่องก็ดับซะดื้อ ๆ จากนั้นลองเข็นสต๊าดดู...สิ่งที่น่ากลัวคือ..ล้อล็อกเลย..ไม่สามารถเข็นสต๊าดได้...กรำ
งานเข้าแล้วงานนี้..ถึงขั้นล้อล๊อค ก็หมายถึง ข้อเหวี่ยง หรือสูบล็อก
ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร อาการต้องหนักแน่ ๆ เลย
หลังจากอาการผิดปกติอย่างมากที่เกิดขึ้นกับเจ้าลูกชายสุดรัก
ก็จัดการยกเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คอย่างละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่น่าเชื่อสายตา ว่าสาเหตุเกิดจาก ”ลูกปืนบาล้านเซอร์แตก”
บ้าไปเลย..งงมาก รถวิ่งแค่ประมาณสามหมื่นห้าพันกิโล อันดับแรกหันมาโทษตัวเอง ว่า
ดูแลรถ ดีหรือเปล่า..คิดไปคิดมา..บอกตรง ๆ เข้าศูนย์เฉพาะระยะที่ต้องตั้งวาล์ว
หรือเข้าศูนย์เฉพาะทุก ๆ 12,000 กิโล แต่ระยะอื่น ๆ ทำเองหมด
ทั้งเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง ซึ่งตามคู่มือว่าไว้ที่ ทุก 4,000 กิโล กับน้ำมันเครืองเกร็ด api-SG ขึ้นไป อันนี้ขอบอกว่า..เปลี่ยนตามระยะตลอด
และถ้ามีทริปที่ต้องวิ่งเกิน 500 กิโล
ก็จะเปลี่ยนก่อนออกทริปเสมอ
แล้วลูกปืนมันแตกได้ไง..หมดประกันแล้วด้วย..งานนี้ก็จัดหนัก ๆ ยาว ๆ เลย..
นี่ไง
เจ้าตัวการเจ้าลูกปืนบาล้านเซอร์นี่มันอยู่ในห้องข้อเหวี่ยงเลย เมื่อมันแตก..ลูกปืนก็กระจายไปทั่ว..จบกัน..ชุดใหญ่งานนี้
ว่าแล้วก็ประเมินความเสียหายว่าต้องเปลี่ยนอะไรบ้าง..ดูด้วยตาแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็ต้องเปลี่ยนแคร๊ง(crank)เครื่องยนต์ และอีกหลายอย่าง
ฟังดูแล้วก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก
ๆ เพราะแค่จ่ายตังค์..ช่างศูนย์คาวาซากิพระรามเก้าก็จัดการให้อยู่แล้ว
แต่มันไม่จบแค่นั้น เจ้าแคร๊ง(crank)ที่เปลี่ยนที่แหละตัวปัญหาเลย
เพราะเป็นชิ้นส่วนที่มีเลขเครื่องยนต์จากโรงงาน... ฟังดูแล้วเริ่มจะเห็นปัญหาความยุ่งยากกันแล้วซิ
ต้องไปแจ้งเปลี่ยนแคร๊งเครื่องยนต์ รวมทั้งขอให้ทางขนส่งตอกเลขใหม่ให้
เพราะมันไม่มีเลขมาให้แล้ว....ยาว ๆ ๆ เลย
หลังจากซ่อมเสร็จ
เราก็จะได้ใบเสร็จว่าจ่ายค่าอะไรไปบ้าง อันนี้ทางศูนย์เค้าออกให้เป็นอัตโนมัตอยู่แล้ว...แต่อีกอย่างที่ลืมไม่ได้..ต้องเอ่ยปากขอทางศูนย์นะครับ..ไม่งั้นจะไม่ได้แบบผม
ทำให้ไปขนส่งแล้วต้องกลับมาศูนย์เพื่อขออีกรอบ คือ ใบรับรองการซื้อแคร้ง
หรือใบรับรองเปลี่ยนแคร้ง แล้วต่อจะเรียก ต่อมาเอกสารอย่างอื่นที่ต้องใช้ก็พวกเล่มทะเบียน(เล่มเขียว)
สำหรับท่านใดที่ยังผ่อนอยู่ ซึ่งเล่มจะอยู่ที่ไฟแนนซ์ อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องติดต่อไฟแนนซ์มั้ย
เพราะจะต้องมีการเปลี่ยนเลขเครื่องยนต์ ยังไงก็ไปสอบถามขนส่งกันเอาเองนะคร๊าฟ..
สรุปเอกสารในการแจ้งเปลี่ยนแคร้ง
(crank) เครื่องยนต์
1.ใบเสร็จฉบับจริงจากศูนย์บริการ
2.ใบรับรองฉบับจริงจากศูนย์บริการ
3.เล่มทะเบียน (เล่มเขียว)
4.แบบคำขอเพิ่มเติมรายการในทะเบียนรถ (เอาที่ขนส่ง)
5.แบบคำขออื่น ๆ (เอาที่ขนส่ง)
1.ใบเสร็จฉบับจริงจากศูนย์บริการ
2.ใบรับรองฉบับจริงจากศูนย์บริการ
3.เล่มทะเบียน (เล่มเขียว)
4.แบบคำขอเพิ่มเติมรายการในทะเบียนรถ (เอาที่ขนส่ง)
5.แบบคำขออื่น ๆ (เอาที่ขนส่ง)
ตัวอย่างใบเสร็จจากศูนย์บริการ
แบบคำขอแก้ไขเพิ่มเติมรายการในทะเบียนรถ
แบบคำขออื่น ๆ
ใบรับรองจากศูนย์บริการ
อีกอย่างที่ควรรู้สำหรับผู้ที่จะแจ้งเปลี่ยนแคร็งเครื่องยนต์
ท่านต้องรู้ว่ารถของท่านจดทะเบียนเขตอะไร(สำหรับกทมนะครับ ต่างจังหวัดไม่รู้) สำหรับรถผม
จดทะเบียนกรมการขนส่งเขตสวนหลวง ก็จะต้องไปตอกเลขที่เขตสวนหลวง แต่ ๆ ๆ
ก่อนจะตอกเลขใหม่ได้นั้นจะต้องนำเอกสารดังกล่าวไปตัดบัญชีที่ขนส่งใหญ่จตุจักรก่อน
อะไรมันจะเยอะปานนั้น เรื่องของเรื่องคือว่า เลขเครื่องยนต์ เลขตัวถังและเลขทะเบียน
ของรถแต่ละคัน จะมีข้อมูลอยู่ในระบบ ทุกเขตสามารถดูได้
แต่ในผู้ที่มีอำนาจแก้ไขได้ก็ต้องเป็นที่ขนส่งจตุจักร
เราจึงต้องเอาเอกสารไปตัดบัญชีออกก่อน เพื่อที่จะได้ให้ทางเขตที่รถของท่านอยู่สามารถใส่ข้อมูลเลขใหม่ที่จะตอกลงไปได้
เอกสารครบ
ก็ไปเลยครับที่อาคาร2ชั้น4
ขั้นตอนนี้ไม่ต้องนำรถไป และบริการดี รวดเร็วมาก ๆ เลยครับ สมกันเป็นข้าราชการยุคใหม่จริง
ๆ เมื่อเราแจ้งจำหน่ายเลขเครื่องยนต์และตัดบัญชีเลขเครื่องยนต์แล้ว
เราก็นำเอาสารทั้งหมด ไปที่เขตที่รถของท่านไปจดทะเบียนไว้
ถ้าเป็นที่เดียวกันก็จบเลย แต่ในกรณีของผมต้องไปที่เขตส่วนหลวง เห้อ...ถอนหายใจยาว
ๆ ..
กว่าจะเสร็จขั้นตอนแรก
และเดินทางมาเขตสวนหลวงก็ปาเข้าไปเที่ยงพอดี ก็นั่งพักกินข้าวกินปลากันก่อน
พอเข้าบ่าย ก็เริ่มยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง จ่ายค่าธรรมเนียม 25 บาท เสร้จขั้นตอนยื่นเรื่องก็เจอปัญหาอีกเนื่องจากรถซ่อมเสร็จและประกอบไปแล้ว
พื้นที่ในการตอกเลขเครื่องอยู่ลึกมาก ๆ ไม่สามารถตอกได้
จึงต้องยกเครื่องลง วันนี้จึงได้แต่ทำเอกสาร ตรวจสภาพ ขุดเลขคอ และทำทุกอย่างให้จบ
แล้วก็ขับรถไปศูนย์อีกที ไปยกเครื่องลง...กรำ..^&^!
ยังไงก็ต้องขอบคุณทางศูนย์บริการkawasaki มาก ๆ ที่ทำการยกลงให้อย่างรวดเร็ว
จำได้ว่าไปถึงศูนย์ประมาณ บ่าย3โมง ประมาณ 5 โมงทางศูนย์โทรมาแจ้งว่ายกลงให้เรียบร้อยแล้ว
วันรุ่งขึ้นเข้าไปรับเครื่องไปตอกเลขได้เลย
รุ่งขึ้นก็เข้าไปรับเครื่องแล้วนำไปขนส่งสวนหลวงอีกที
ก็เอาเอกสารชุดเดิมที่ทางทางขนส่งคืนให้วันก่อน ไปยื่นอีกที เมื่อถึงคิว(รอประมาณ 1 ชั่วโมง) ก็ได้ทำการตอกเลขและลอกเลขชุดใหม่
บวกกับเอกสารทั้งหมดไปติดต่อขั้นบนสุด เสียค่าธรรมเนียมอีก 25 บาท มีการแก้ไขในเล่นเรียบร้อย เป็นอันจบพิธี
ขนเครื่องกลับไปศูนย์ และรอให้ทางศูนย์ประกอบทุกอย่างคืนให้ เห้อ..เหนื่อยจริง ๆ
ไม่ต้องทำการทำงานกันเลย 2 วัน...แต่ตอนนี้ก็มีความสุขกับเครื่องยนต์โอเวอร์ฮอลใหม่..ขี่มันมาก
ๆ แหละหวังว่าคงจะไม่พังง่าย ๆ ในแบบเดิม ๆ นะ
ถ้า ซื้อ มือ สองมา เลขแคร้ง ไม่มี มันยังไม่ได้ตอกมา ไม่มีรอยเจีย รอยลบใดๆทั้งนั้น ใบเสร็จเปลี่ยนแคร้งก็ไม่มี มีแต่เล่มเขียว ทำไงดีล่ะทีนี้ มีทางอื่นใดอีกมั้ย นอกเหนือจาก คำว่าซื้อแคร้งใหม่ เพื่อ เอาใบเสร็จไปตอกเลข แนะนำที ครับ
ตอบลบ